รวมเรื่องราวดีๆ สุขภาพ การกิน การอยู่ การใช้ชีวิต ปรัชญา เสริมกำลังใจ ที่นี้ maneedee.com
กินเจ เพื่ออะไร ทำไมต้อง กินเจ และ กินเจ ปี 2566 เริ่ม วันไหน ถึง วันที่เท่าไหร่
เทศกาลกินเจ ประจำปี 2566
เทศกาลกินเจ ประจำปี 2566 เริ่มวันอาทิตย์ ที่ 15 ตุลาคม 2566 ถึงวันจันทร์ ที่ 23 ตุลาคม 2565 (ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ถึง วันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามหลัของปฏิทินจีนให้เป็นวันกินเจ) แต่สำหรับบางท่าน จะเริ่มกินตั้งแต่มื้อเย็นของวันก่อนวันเริ่มเทศกาลกินเจ ซึ่งก็คือวันเสาร์ ที่ 14 ตุลาคม 2566 หรือที่เรียกว่า ล้างท้อง ก่อนกินเจนั่นเอง
การเตรียมตัวก่อนกินเจ หรือ ล้างท้อง ก่อนกินเจ
ซึ่งโดยปกติแล้ว ก่อนถึงเทศกาลกินเจ จะมีการเตรียมตัวก่อนกินเจ 1-2 วัน หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า ล้างท้อง ก่อนกินเจ
การล้างท้องก่อนกินเจ คือ การกินเจก่อนถึงวันเทศกาลเจจริงประมาณ 1-2 วัน โดยส่วนมากจะนิยมล้างท้องโดยงดเว้นเนื้อสัตว์ ผัก และอาหารต้องห้ามทุกชนิดก่อนกินเจจริง ๆ 1 วัน เพื่อชะล้างเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมดสิ้น เมื่อถึงวันถือศีลกินเจ ร่างกายจะได้สะอาด พร้อมถือศีลกินเจตามประเพณี หรือหากยังไม่สามารถละเว้นเนื้อสัตว์ได้ในทันที อาจปรับทีละน้อย โดยเปลี่ยนจากการทานเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว มาทานเป็นเนื้อปลา และเน้นทานโปรตีนจำพวกถั่วต่าง ๆ พร้อมกับเพิ่มผักผลไม้ลงไปในมื้ออาหาร เพื่อให้ระบบย่อยอาหารเริ่มปรับตัวก็ได้เช่นกัน
แต่สำหรับด้านสุขภาพ ทางนักโภชนาการ ได้แนะนำให้มีการเตรียมตัวก่อนกินเจ โดยควรเตรียมตัวก่อนกินเจ ประมาณ 3 - 4 วัน เพื่อให้ร่างกายและระบบทางเดินอาหารค่อย ๆ ปรับตัว ควรเพิ่มการกินผักให้มากขึ้น ลดเนื้อสัตว์ เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เป็นปลา ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง ตามลำดับ
ทั้งนี้ หลักโภชนาการที่ต้องใส่ใจเมื่อกินเจ คือ 1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาหารหนึ่งจาน ควรประกอบไปด้วย โปรตีน จากถั่วเมล็ดแห้ง คาร์โบไฮเดรต จากข้าวแป้ง วิตามินและแร่ธาตุ จากพืชผัก ผลไม้ และไขมัน จากน้ำมันแต่พอดี 2. ต้องมั่นใจว่าได้สารอาหารโปรตีนจากถั่วเมล็ดแห้งอย่างเพียงพอ ซึ่งอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป เช่น เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ โปรตีนเกษตร ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วเมล็ดแห้งทุกชนิด กินขนมที่ทำจากถั่ว เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาลทรายแดง เต้าส่วน ขนมถั่วแปบ ถั่วกวน เป็นต้น
กินเจ คือ อะไร ?
ประวัติของเทศกาลกินเจ
ความหมายของ คำว่า "เจ"
จุดประสงค์ของการ กินเจ
อาหารเจ
อาหารเจ คือ
- อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา เจลาติน คอลลาเจน)
- และไม่ปรุงด้วยผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ บ้างก็รวมผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนเข้ามาด้วย เพราะผักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธาตุในร่างกาย บ้างเชื่อว่าผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีน ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กินเจหันมาบริโภคธัญพืชในธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง โดยในประเทศจีน พบว่ามีภัตตาคารบางแห่งซึ่งบริการ "ปรุงอาหารตามใบสั่งแพทย์" (กล่าวคือ ผู้ที่เข้ามารับประทานจะต้องได้รับใบสั่งอาหารของแพทย์เสียก่อน) โดยลูกค้าของภัตตาคารดังกล่าวเป็นคนไข้ที่กำลังเข้ารับ "การบำบัดโรคด้วยอาหารตามหลักเวชศาสตร์โบราณ" หลังเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว
อนึ่ง หอยนางรมก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารเจได้ เนื่องจากเชื่อกันว่าเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน(พระโพธิสัตว์กวนอิม) ซึ่งพาประชาชนส่วนหนึ่งทีนับถือในพระพุทธศาสนาหนีจากการเข่นฆ่าจากพระเจ้าเมี่ยวจวงลงเรือออกทะเลไป พอนานๆวันเข้าเสบียงที่เตรียมมานั้นก็เริ่มจะหมดลงทุกทีจนหมด ผู้คนขาดอาหารเกิดความหิวโหย เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านทรงตั้งจิตอธิษฐานโดยเอาไม้พายจุ่มลงสู่ทะเลว่าหากสิ่งใดติดขึ้นมาก็จะทานสิ่งนั้นเป็นอาหาร ผลปรากฏว่ามีหอยนางรมติดไม้พายขึ้นมา ด้วยหอยนางรมเองก็ยอมปวารณาตนถวายแด่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านและเหล่าพุทธศาสนิกชน จากนั้นเป็นต้นมา หอยนางรมจึงสามารถทานเป็นอาหารเจได้ และถูกทำเป็นซอสปรุงอาหารผัดกับผักต่างๆ เช่น คะน้าน้ำมันหอย เป็นต้น
หลักธรรมในการกินเจ
1. ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
2. ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน
3. ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน
การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ
ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจ จะต้องปฏิบัติดังนี้
1. รับประทาน "อาหารเจ"
2. งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก
3. รักษาศีลห้า
4. รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์
5. ทำบุญทำทาน
6. นุ่งขาวห่มขาว
สีในเทศกาลกินเจ
- สีแดง เป็นสีที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสีศิริมงคล ดังจะเห็นได้ว่าในงานมงคลต่างๆ ของคนจีนไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง วันตรุษจีน
- สีเหลือง เป็นสีสำหรับใช้ในราชวงศ์ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้เพียงคนสองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มแรกคือกษัตริย์ซึ่งเห็นได้จากหนังจีน เครื่องแต่งกายและภาชนะต่างๆ เป็นสีเหลืองหรือทองซึ่งคนสามัญห้ามใช้เด็ดขาด กลุ่มที่สองคืออาจารย์ปราบผีถ้าท่านสังเกตในหนังผีจีนจะเห็นว่าเขาแต่งกายและมียันต์สีเหลือง
- สีขาว ตามธรรมเนียมจีนสีขาวคือสีสำหรับการไว้ทุกข์ สีดำที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้เป็นการรับวัฒนธรรมตะวันตก ถ้าท่านสังเกตในพิธีงานศพของจีนจะเห็นลูกหลานแต่งชุดสีขาวอยู่
สีซึ่งกล่าวมาทั้งหมดนี้สามารถนำไปเชื่อมโยงในตำนานข้างต้นที่กล่าวมาได้ทั้งหมด
###########################################
สำหรับท่านที่กินเจ แอดมินมีโปรโมชั่นอาหารเจ มากมาย
ไว้ให้เลือกอร่อยกัน แบบไม่จำเจ คลิกที่ลิ๊งค์ด้านล่างได้เลยคะ
รวมโปรโมชั่น อาหารเจ จากร้านอาหารดังมากมาย ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
###########################################
ยังมีโปรโมชั่นอื่นๆ ที่คุณไม่ควรพลาดอีกมากมาย แยกตามหมวดหมู่ ดังนี้
- โปรโมชั่น ร้านอาหาร ฟาสฟู้ด ชาบู ปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์ เบอร์เกอร์ ฯลฯ
- โปรโมชั่น เครื่องดื่ม กาแฟ ชา นม เบเกอรี่ ขนม โดนัท เค้ก ฯลฯ
- โปรโมชั่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าในห้าง โลตัส บิ๊กซี เซเว่น เดอะมอลล์ เซ็นทรัล ฯลฯ
- โปรโมชั่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง แฟชั่น แบรนด์ดัง ฯลฯ
- โปรโมชั่น โรงภาพยนตร์ ตั๋วหนัง ชุดป๊อปคอร์น สวนสนุก โรงแรม ที่พัก ฯลฯ
- สิทธิพิเศษสำหรับ บัตรสมาชิกต่างๆ (บัตรสมาชิก ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ)
- สิทธิพิเศษ บัตรเครดิต (กสิกรไทย กรุงไทย ไทยพาณิชย์ TMB กรุงเทพ ฯลฯ)