เรื่อง ผีแม่ม่าย
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในชนบท มีตำนานเล่าขานกันว่า ในป่าลึกของหมู่บ้าน มีผีแม่ม่ายอาศัยอยู่ ผีแม่ม่ายตัวนี้เป็นหญิงสาวผู้น่าสงสาร เธอถูกสามีฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม วิญญาณของเธอจึงเร่ร่อนอยู่ในป่า คอยหลอกหลอนผู้คนที่ผ่านไปมา
ผีแม่ม่ายเป็นผีที่ดุร้ายมาก เธอสวมชุดคุมสีดำ หน้าซีดขาว ตาสีแดง ยามค่ำคืน เธอจะปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความมืด เสียงร้องโหยหวนของเธอดังก้องไปทั่วป่า ผู้คนต่างหวาดกลัวผีแม่ม่ายเป็นอย่างมาก
วันหนึ่ง มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วย ปรีชา ชัยศักดิ์ ชูสิทธิ์ และธวัชชัย ตัดสินใจที่จะไปพิสูจน์ตำนานผีแม่ม่าย พวกเขาเข้าไปในป่าลึก และเริ่มเดินไปตามเส้นทางที่พวกเขาได้ยินมา
เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็เริ่มได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากป่า ปรีชาเริ่มกลัว แต่ชัยศักดิ์และชูสิทธิ์ก็พยายามปลอบใจเขา พวกเขาเดินต่อไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็มาถึงจุดหมาย ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่
ศาลเจ้าแห่งนี้รกร้าง และดูน่ากลัว กลุ่มวัยรุ่นเข้าไปข้างใน และเริ่มสำรวจ ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากด้านหลัง พวกเขาหันไปมอง และเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงนั้น หญิงสาวคนนั้นสวมชุดคุมสีดำ หน้าซีดขาว ตาสีแดง
ผีแม่ม่ายเดินเข้ามาหากลุ่มวัยรุ่นอย่างช้าๆ เสียงร้องโหยหวนของเธอดังก้องไปทั่วป่า กลุ่มวัยรุ่นตกใจกลัว พวกเขากรีดร้องและวิ่งหนีออกมาจากศาลเจ้า พวกเขาวิ่งออกมาจากป่า และกลับไปยังหมู่บ้าน
เมื่อพวกเขามาถึงหมู่บ้าน พวกเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง ชาวบ้านพากลุ่มวัยรุ่นไปที่ศาลเจ้า และพวกเขาก็พบว่าศาลเจ้านั้นถูกทำลาย หัวของหญิงสาวก็หายไป ชาวบ้านเชื่อว่า วิญญาณของหญิงสาวได้สงบลงแล้ว
แต่เรื่องราวยังไม่จบ คืนนั้น ปรีชาฝันเห็นผีแม่ม่ายอีกครั้ง คราวนี้ผีแม่ม่ายบอกกับเขาว่า เธอต้องการความช่วยเหลือ เธอต้องการให้เขาช่วยตามหาหัวของเธอ
ปรีชาตื่นขึ้นมาด้วยความกลัว เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาตัดสินใจที่จะไปหาพระที่วัด พระบอกกับเขาว่า เขาต้องหาหัวของหญิงสาวให้เจอ เพื่อให้วิญญาณของเธอได้สงบลง
ปรีชากลับไปที่ศาลเจ้า และเริ่มค้นหาหัวของหญิงสาว เขาค้นหาอยู่หลายวัน และในที่สุดเขาก็พบหัวของหญิงสาว หัวของหญิงสาวถูกซ่อนอยู่ในต้นไม้ใหญ่
ปรีชานำหัวของหญิงสาวไปคืนให้กับผีแม่ม่าย วิญญาณของหญิงสาวก็สงบลง และเธอก็หายไป
ตั้งแต่นั้นมา ผีแม่ม่ายก็ไม่เคยปรากฏตัวในหมู่บ้านอีกเลย ชาวบ้านเชื่อว่า วิญญาณของหญิงสาวได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี